และจะมีค่าก็ต่อเมื่อ_,.,!
คนรับเค้ายินดีรับ_เข้าใจความห่ วงใยและใส่ใจนั้น!
และยิ่งจะเป็นการดีมากขึ้น_;
_ถ้าการใส่ใจห่วงใยนั้นเป็นเหมื อน_กระจกสะท้อนกลับมายังผู้ให้_ โดยผู้รับก็รู้สึกเช่นเดียวกัน%
แต่ใช่ว่า_จะเป็นแบบนี้กับทุกคน _~~_
_เพราะบางคนจะรู้สึกว่า_มันน่าร ำคาญ_คุณกำลังคุกคามฉัน_ละเมิดส ิทธิส่วนบุคคล_บางคนเค้าไม่ชอบ_ !!
ถ้าเป็นแบบนี้!!
ผมแนะนำว่า ให้มองกระจก_แล้วใส่ใจ_ห่วงใยคนที่คุณเห็นน ั่นแหละ_เพราะไม่ว่ายังไง_การใส ่ใจหรือห่วงใยตัวเอง_มันคงไม่เส ียใจ
_สมมุติว่า มีต้นไม้อยู่ 2 ต้น
ผมปลูกไว้ต้นนึง อีกคนที่เราใส่ใจเค้าปลูกไว้ต้น นึง//
ผมเฝ้าดูแลพรวนดิน //รดน้ำ // ต้นไม้ของอีกคนหวังให้มันสวยงาม โดยไม่ได้คิดว่าเค้าจะชอบหรือไม ่ชอบ_แต่ทำไปเพราะใส่ใจ_ห่วงใยใ นตัวเค้าและสิ่งที่เป็นของเค้า. ,.,
ถามว่าผมดูแลต้นไม้ผมมั๊ย ผมก็ดูแล_แต่การดูแลนี้มันเทียบ ไม่ได้เลย_กับสิ่งที่ทำให้อีกคน _!!
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เราเต็มใจ_
_ถึงผมจะไม่ได้รดน้ำดูแลต้นไม้เ ค้า_ยังไงเค้าก็ดูแลต้นไม้เค้าอ ยู่ดี_
_แต่ต้นไม้_ต้นนี้_ของผมสิ_ถ้าข าดผมไปแล้วมันก็คงตาย_เพราะเค้า ไม่เคยใส่ใจรดน้ำให้เลย_แต่เค้า กลับเห็นว่าเป็นเรื่องแค่นี้เอง _ไม่จำเป็น_มันทนได้_
_ถามว่า_ต้นไม้ที่ขาดน้ำจะอยู่ไ ปได้กี่วัน?
_คนที่ขาดกำลังใจ_จะอยู่ต่อไป_ไ ด้อย่างไร?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น